วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

พาเที่ยวรัฐบอลติก ตอนที่ 2 เที่ยวเมืองทราไก(Trakai) เมืองแห่งร้อยทะเลสาป

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านอีกครั้ง จากความเดิมตอนที่แล้วที่ชะนีแคระพาทุกท่านไปเที่ยวเมืองวิลนีอุส(Vilnius) เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย (Lithuania)  สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านต่อนที่แล้วก็ติดตามกันได้กับลิงค์ที่แปะไว้ให้ http://aiyaaroundtheworld.blogspot.fr/
จุดหมายปลายทางของวันนี้เราจะเดินทางไปเที่ยวเมืองทราไก (Trakai )อดีตเมืองหลวงเก่าของประเทศลิทัวเนียกันค่ะ  ถ้าทุกท่านพร้อมแล้วออกเดินทางไปพร้อมกับชะนีแคระหัวใจอินเตอร์กันค่ะ



เมืองทราไก  (Trakai) เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยุ่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงวิลนีอุส และห่างจากเมืองหลวงเพียงแค่ 28 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ทราไก เป็นเมืองที่มีคุณค่าทางประวัติศาสต์และเป็นเมืองที่เงียบสงบและรื่นรมย์ไปด้วยความงามของธรรมชาติ ตัวเมืองถูกล้อมรอบไปด้วยทะเลสาปมากกว่า 200 แห่ง และที่สำคัญเมืองนี้นับเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวกันค่ะ

การเดินทาง
สำหรับการเดินทางก็ไม่ยาก เราสามารถนั่งรถบัสที่ศูนย์สถานีขนส่งกลาง (บขส). เมืองวิลนีอุสใช้เวลาแค่เพียง 40 นาทีกว่าเท่านั้นก็จะมาถึงเมืองทราไก และรถโดยสารก็มีตารางรถออกทุกชม.เลย  ราคาตั๋วไม่แพง ชะนีแคระจ่ายไปแค่ 6.5 ลิตัสต่อคน แต่ปัจจุบันลิทัวเนียใช้สกุลเงินยูโรแล้ว ชะนีแคระไม่มั่นใจในราคาว่ายังไง ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วได้เลยกับคนขับรถ แต่คนขับรถพุดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้เล่นเอาชะนีแคระใช้ภาษามือเป็นพัลวัน แต่ก็ไม่ยากสนุกดีค่ะในที่สุดก็ได้ตั๋วมาครอบครอง เดินทางอย่างนี้ชะนีแคระชอบมากตอนที่รถวิ่งออกนอกชานเมืองเรายังได้เห็นวิวทิวทัศน์สองข้างทาง เห็นทุ่งหญ้าก็ดูสวยงามดีแปลกตาไปอีกแบบ


แผนที่เมืองทราไก

   เมื่อเราเดินทางมาถึงบขส.ที่ทราไกแล้ว เกิดอาการงงเล็กน้อยว่าเราจะไปต่อยังไงดี  ไม่ยากเลยค่ะ ชะนีแคระใช้หลักเดินทางตามคนหมุ่มาก เดินตามๆนักท่องเที่ยวกันไปนี่หละ สักพักเราก็เดินไปเจอศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองทราไก ซึ่งไม่ไกลจากลานจอดรถบขส. เดินราว 5 นาทีได้ เราก็เดินไปขอแผนที่ จากนั้นก็ไม่ยากเลย เราก็ตั้งใจที่แรกวันนี้จะเข้าไปชมปราสาททราไกกัน จากแผนที่เราเดินตรงขึ้นไปอย่างเดียวเลยค่ะ


บ้านสไตย์ Kariam


 บ้านสไตย์  Karaim ระหว่างเดินทางที่จะไปปราสาททราไกก็จะเจอบ้านสไตย์แบบนี้ไปตลอดแนวถนน โดยบ้านก็จะมีลักษณะเด่นโดยจะมีหน้าต่าง 3 บาน และมีสีสันสดใส ซึ่งทางการลิทัวเนียเค้าอนุรักษ์แบบบ้านโบราณเหล่านี้ไว้ ซึ่งเค้าว่ากันว่าหน้าต่างแต่ละบานนั้นมีที่มามีความหมาย หน้าต่างบานที่ 1 หมายถึงพระเจ้า บานที่ 2 กษัตริย์ บานที่ 3 หมายถึงครอบครัว


หลังจากเดินไปสักพักชมความงามสองข้างทางราวประมาณเกือบ 15 นาทีเราก็เดินทางมาถึงจุดหมายของเราแล้วค่ะ ปราสาททราไก  (Trakai Island Castle) ปราสาทจะตั้งอยุ่บนเกาะเล็กๆ ในทะเลสาปเกรฟ( Lake Galvés) ซึ่งเป็นทะเลสาปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองทราไก วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะเลยค่ะ





ด้านหน้าปราสาททราไก

บริเวณด้านหน้าปราสาททราไกก็จะมีร้านอาหาร ร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย เอาไว้เดี่ยวขากลับค่อยออกมาดูกันตอนนี้เราข้ามสะพานไม้ไปเที่ยวภายในตัวปราสาทกันก่อน


ทางเข้าชมตัวปราสาททราไก

ด้านหน้าปราสาทมีการแสดงเครื่องทรมานนักโทษในอดีตจัดไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกัน

การเข้าชมภายในตัวปราสาทต้องเสียค่าเข้าชมนะค่ะสำหรับตั๋วผู้ใหญ่ตกคนละ 18 ลิตัสค่ะ ภายในก็จะมีการแบ่งเป็นการเข้าชมตัวปราสาท และก็มีส่วนที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมาและ เครื่องประดับ เครื่องตกแต่ง ภาชนะต่างๆทีถูกค้นพบ


ภายในด้านในตัวปราสาททราไก

ที่ประทับของกษัตริย์ และพระราชินีทราไก


กษัตริย์แห่งทราไก

สำหรับประวัติความเป็นมาคร่าวๆของปราสาททราไก เป็นปราสาทที่สร้างบนเกาะกลางทะเลสาปเกรฟ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในคศ. ที่ 14 ในสมัยดยุคควีเตาตาส (Grand Duke Kestutis) แต่สร้างเสร็จในคศ. ที่ 15 ในสมัยดยุค  Vytautas ซึ่งเป็นบุตรชาย และในสมัยดยุค Vytautas  ได้เสียชีวิตลงปราสาทก็ได้ถูกปล่อยให้รกร้างเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ประกอบกับการย้ายเมืองหลวงใหม่มาที่วิลนีอุส  ในช่วงคศ. 19 ปราสาททราไกได้รับผลกระทบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวปราสาทเสียหายอย่างหนัก จนกระทั่งปี คศ. 1987 ทางรัฐบาลได้ทำการบูรณะซ่อมแซมใหม่ให้สวยงามและกลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจนถึงทุกวันนี้


หลังจากเที่ยวชมภายในตัวปราสาทเสร็จแล้ว เราก็ออกมาเดินเล่นถ่ายรูปบริเวณรอบๆตัวปราสาทเก็บภาพวิวสวยๆมาฝากท่านผู้อ่านกันคะ


มีนักท่องเที่ยวเช่าเรือถีบ ล่องชมทะเลสาปด้วย


บรรยากาศร่มรื่นมาก

มีบริการให้เช่าเรือพาย




หลังจากเที่ยวชม และเดินเล่นรอบๆตัวปราสาททราไกเสร็จแล้วเราก็เดินข้ามสะพานกลับมาตรงทางเข้าเพื่อแวะเดินดูร้านขายของฝากที่ระลึกกันสักหน่อยค่ะ  มีร้านค้ามากมายคอยให้บริการนักท่องเที่ยวกัน


ร้านขายของที่ระลึก


ตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้วค่ะ เริ่มหิวกันแล้วเดียวเราแวะหาอะไรทานกันก่อนกลับ ถ้ามาทราไกแล้วห้ามพลาดเมนูดัง เราต้องมาลองทานอาหารตรุกีกัน ทำไมต้องเป็นอาหารตรุกีเหรอค่ะ เพราะที่เมืองทราไกมีชาวตรุกีมาตั้งรกรากถิ่นฐานตั้งแต่สมัยคศ.ที่ 14 โดยทหารชาวตรุกีถูกข้อร้องหรือจ้างมาคอยรบ ทำสงครามและปกป้องตัวปราสาททราไก นับตั้งแต่นั้นมาที่ทราไกมีชาวลิทัวเนียเชื่อสายตุรกีค่ะ   ว่าแล้วเราลองเลือกเมนูสองเมนูดังมาทานกันค่ะเมนูแรกชื่อว่า Kibinas  รูปร่างคล้ายกะหรี่ปั๊ปบ้านเรานี่หละค่ะ แต่รสชาติอร่อยดี ข้างในก็จะมีไส้ไก่ ไส้เนื้อ ไส้แกะให้เลือก ตกอันละ 6 ลิตัส ราวๆ 1.7 ยูโรคะ ดูแล้วอันเดียวไม่น่าจะอิ่มนะค่ะ ชะนีแคระจัดไปคนเดียว 3 ชิ้นค่ะ


Kibinas

เมนูที่สองหน้าตาคล้ายๆพายนะค่ะ เรียกว่า Pyragas ข้างในจะเป็นไส้ไก่ เนื้อ และแกะ รสชาติก็คล้ายเจ้า Kibinas แต่มีขนาดใหญ่กว่าก็อร่อยดี ตกอันละ 17.5 ลิตัส ราวๆ 5 ยูโรค่ะ ชะนีแคระชอบ Kibinas มากกว่าอาจจะเป็นเพราะตัวแป้งกรอบๆกว่า หรือเริ่มอิ่มแล้วกันแน่

Pyragas

หลังจากกินอิ่มแล้วเราก็เดินทางกลับเข้าตัวเมืองวิลนีอุสกัน สุดท้ายนี้การมาท่องเที่ยวที่เมืองทราไกใช้เวลาไม่นานค่ะ เพียงแค่ครึ่งวัน  3-5 ชม เราก็เที่ยวได้เกือบทั่วทราไกแล้ว ดังนั้นหากใครได้มาเที่ยวที่วิลนีอุส  ประเทศลิทัวเนีย ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่เมืองทราไกนะค่ะ รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกคุ้มค่าจริงๆเหมือนที่ใครๆก็ต่างขนามนามว่าทราไกเมืองแห่งร้อยทะเลสาปค่ะ  สำหรับตอนหน้านะค่ะ ชะนีแคระจะพาทุกท่านไปเที่ยวกรุงริก้า (Riga) เมืองหลวงของประเทศลัตเวีย (Latvia) กัน ที่นี่เค้าขนานนามว่าปารีสแห่งบอลติกค่ะ http://aiyaaroundtheworld.blogspot.fr/2015/02/3-riga-latvia.html สำหรับวันนี้ชะนีแคระลาไปก่อน ขอบคุณสำหรับการติดตามกันนะค่ะ วันนี้สวัสดีค่ะ