สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน ช่วงที่ผ่านมาชะนีแคระไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่เพราะมั่วยุ่งกับการงาน ตอนนี้พอมีวันหยุดยาวๆก็เร่งปั่นต้นฉบับที่ค้างไว้ วันนี้สัญญาว่าจะพาไปเที่ยวลอนดอนกันต่อในตอนที่ 2 สำหรับคนที่ยังไม่อ่านตอนแรก ก็คลิกเข้าไปอ่านบทความเดิมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลยคะ
http://aiyaaroundtheworld.blogspot.fr/2015/11/in-uk-london-1.html
วันที่ 3
เมื่อวานนี้ชาวคณะตะลุยเที่ยวจนปวดแข้งปวดขาเหนื่อยจนหมดแรง วันนี้เราจึงปรับกลยุทธ์กันใหม่เอาเป็นว่าจะเน้นเที่ยวแบบสบายๆแล้วกันไม่เน้นล่าแต้ม Rc เช้านี้เริ่มต้นกันที่นี่เลยคะตามความใฝ่ฝันของชะนีแคระ
15 ตลาด Portobello Market ที่ Notting Hill สำหรับแฟนๆป้าจูเลียร์หรือคอหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ต้องไม่พลาดวันนี้เราจะมาย้อนรอยหนังดังเรื่องNotting hill กันซึ่งในหนังเรื่องนี้ได้ใช้ตลาด Portobello เป็นฉากดำเนินเรื่องด้วยค่ะ การเดินทางจากโรงแรมของชะนีแคระไม่ไกลจากตลาดมากนัก เราจึงลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งรถเมล์สองชั้นดูบ้างก็ชิวๆไปอีกแบบ ถ้าใครจะมาโดยทางรถไฟใต้ดินก็ให้ลงที่สถานี Notting Hill Gate
|
บรรยากาศชั้นสองของรถเมล์อังกฤษ |
ในที่สุดก็นั่งมาถึงที่ตลาด Portobello แล้ว ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งขายของเก่า ของสะสม ของแต่งบ้านเก๋ๆ สไตล์วินเทจ ยังมีเสื้อผ้า ของที่ระลึก รวมถึงทั้งตลาดดอกไม้และมีแหล่งขายอาหารคล้ายๆแบบตลาดนัดจตุจักร ตลาดรถไฟบ้านเรายังไงยังงั้นเลยมีทุกสิ่งให้เลือกสรร วันนี้เป็นวันเสาร์คนเยอะมากเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ชะนีแคระเก็บภาพมาฝากกันคะ
|
มาถึงแล้วถนน Portobello |
|
ร้านขายป้าย สติกเกอร์ต่างๆ |
|
ร้านขายของเก่าของสะสม |
|
นักท่องเที่ยวเยอะมาก แทบจะเดินไหลตามผู้คนเลย |
|
โซนขายของกิน |
|
ร้านนี้ชื่อเดียวกับในหนังเลย |
|
มื้อเที่ยงฝากท้องง่ายๆที่ตลาดเลย เรียกอะไรไม่รู้แต่น่ากินจัดไป |
สำหรับเวลาเปิดปิดนั้น วันจันทร์- อังคารเปิดตั้งแต่ 8.00-18.30 น วันพฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ เปิดตั้งแต่ 8.00-13 .00 น. ถ้าให้ดีวันเสาร์ของจะเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบของสะสม ของเก่าแนะนำให้มาวันเสาร์นะค่ะ หลังจากเที่ยวที่ตลาดสักพัก หาอะไรง่ายๆทานแล้วก็ได้เวลาเที่ยวกันต่อในสถานที่ต่อไป
เราเดินลัดเลาะต่อจากตลาดไปไม่ไกลนักเราก็มาถึงที่ 16.สวนสาธารณะ Kensington Park และพระราชวังเค็นซิงตัน (Kensington palace) พระราชวังถูกสร้างขึ้นในคศ. ที่ 17 และใช้เป็นที่ประทับของพระราชวงศ์อังกฤษตั้งแต่นั้นมาและได้รับการปรับปรุงขยายเพิ่มเติม พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของพระสมเด็จราชินีนาถวิกตอเรียขณะทรงพระเยาว์ด้วย และยังเคยเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงไดอาน่าหลังทรงหย่าร้างกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จนกระทั้งสิ้นพระชนม์ในปี 2007
|
พระราชวังเค็นซิงตัน |
ชะนีแคระเก็บบรรยากาศสวนสาธารณะเค็นซิงตันมาฝากท่านผู้อ่านกัน
|
ความร่มรื่นของสวนสาธารณะ |
|
มีนกตัวใหญ่ด้วยไม่รู้เรียกว่าอะไร |
|
ฝูงหงษ์มาแย่งเศษขนมปังกับเหล่านกพิราบ |
|
คุณพี่ใจดีมาให้เศษขนมปังกับนกพิราบ |
|
มีบริการเรือถีบด้วยนะ |
|
เด็กๆมาเล่นน้ำกันเต็มเลย ยิ่งตอนบ่ายอากาศดีๆแบบนี้คนออกมาตากแดดเยอะมาก |
|
ดอกเชอรี่บอสซั่มบานแวว |
สำหรับคนที่สนใจจะเดินทางมาเที่ยวชมสวนสาธารณะและพระราชวังเค็นซิงตันโดยรถไฟใต้ดินให้ลงที่สถานี High St. Kensington
หลังจากเดินเล่นกันพอสมควร ชะนีแคระดูเวลาบ่ายสามกว่าแล้วเราก็ต้องรีบเดินลัดเลาะไปต่อวันนี้ยังมีโปรแกรมหลายอย่างที่ต้องตามเก็บ คราวนี้เราเอาใจแฟนๆน้องๆคุณหนูๆกันบ้างเราจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวที่
17. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (Natural History Museum) ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้มีการรวบรวมวิวัฒนาการประวัติศาสตร์ของธรรมชาติชีววิทยาจากทั่วทุกมุมโลกมาแสดง และได้มีการจัดแยกเป็นโซนหมวดหมู่ต่างๆอย่างชัดเจนและน่าสนใจ โดยอาคารถูกก่อสร้างขึ้นในปีคศ. 1870 เป็นสไตล์สถาปัตยกรรมแบบโกธิค เดี่ยวชะนีแคระจะพาไปเที่ยวชมข้างในกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
|
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา |
|
ห้องโถงทางเข้า |
ทางเข้าของพิพิธภัณฑ์จะเจอโครงกระดูกไดโนเสาร์ตัวใหญ่นี้อยู่กลางห้องโถงเลย พระเอกของงานนี้เลยทีเดียว
|
รูปปั้นของศาสตราจารย์ Charles Darwin |
รูปปั้นสีขาวที่เห็นลิบๆกลางห้องโถงใหญ่เป็นรูปปั้นปรมาจารย์ของโลกด้านชีววิทยานั่นก็คือศาสตรจารย์ชาลว์ ดาร์วิน (Charles Darwin) ผู้เป็นเจ้าของทฤษฎีที่ว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิงนั่นเอง
|
เป็นต้นโอ๊คยักษ์ที่มีอายุเป็นพันปี ดูขนาดวงปีใหญ่มากขนาดหลายสิบคนโอบ |
เดี่ยวเราจะไปดูโซนสีฟ้าโซนแรกกันก่อน ที่นี่จะมีการจัดแสดงซากของไดโนเสาร์ด้วย
|
ซากไดโนเสาร์พันธ์กินพืช |
|
นี่ซากฟอสซิลนกโบราณ |
|
ไดโนเสาร์พันธ์ดุกินสัตว์ |
|
ซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ที่ถูกค้นพบ |
|
มีเจ้าหน้าที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงที่ค้นพบซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ |
|
มาดูส่วนที่จัดแสดงซากปลาวาฬขนาดใหญ่ด้วย |
|
ทางเข้าโซนสีแดง |
โซนสีแดงจะเป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับธรณีวิทยา การกำเนิดโลกและดวงดาว การเกิดแผ่นดินไหว การเกิดซินามิ น่าเสียดายที่เรามีเวลาเพียงแค่ยี่สิบนาที ตอนนี้ใกล้เวลาปิดของพิพิธภัณฑ์เราจึงไม่ค่อยได้เก็บภาพมาฝากท่านผู้อ่าน ชะนีแคระใช้วีธีดูอย่างรีบๆทำเวลา
สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจทางพิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-17.50 น. เข้าชมฟรีไม่เสียเงิน สนใจก็เดินทางมาลงที่สถานีรถไฟใต้ดินที่สถานี South Kensington
|
ห้างแฮร์รอด Harrods |
ตอนนี้ดูเวลาก็เกือบหกโมงเย็นแล้วสงสัยคงจะแวะไปเที่ยวสถานที่สุดท้ายของวันนี้ ว่าแล้วเราจะเดินลัดเลาะไปช็อปปิ้งที่ห้างดัง 18. ห้างแฮร์รอดส์ (Harrods) แฮร์รอดส์เป็นห้างสรรพสินค้าที่หรูหราและใหญ่เป็นอันดับสองของอังกฤษ ตั้งอยู่บนถนนบรอมพ์ตัน ย่าน Knight Bridge ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์เนมมากมายกว่า 300 ร้าน เดี่ยววันนี้ชะนีแคระจะไปเดินเล่นแวะซื้อของฝาก และที่เพื่อนฝากซื้อที่ห้างนี้กัน
|
แผนกขายของที่ระลึกของแบรนด์แฮร์รอดส์ |
|
พี่หมีแฮร์รอด |
|
พี่หมีตัวใหญ่มาก |
สำหรับผู้ที่สนใจอยากแวะมาช็อปปิ้งที่นี่ ห้างแฮร์รอดเปิดทุกวัน วันจันทร์-วันเสาร์เปิดตั้งแต่ 10.00-20.00 ส่วนวันอาทิตย์เปิด 10.00-18.00 น. ถ้าเดินทางมาสถานีรถไฟใต้ดินให้ลงที่สถานี knightsbridge
เดินเล่นซื้อของก็ปาเกือบทุ่มกว่าแล้ว วันนี้คงต้องจบโปรแกรมกลับมาหาอะไรทานง่ายๆแถวโรงแรมกัน เพราะเดอะแกงค์เหนื่อยและเพลียมากตอนแรกตั้งใจว่าจะไปเก็บภาพแสงสียามค่ำคืนของมหานครลอนดอนต่อแต่เอาเข้าจริงขอกลับโรงแรมนอนดีกว่าไว้ค่อยไปเที่ยวต่อวันพรุ่งนี้กัน
วันที่ 4
เช้านี้เริ่มออกจากโรงแรมราวสิบโมงกว่า เราออกเดินทางไม่รีบร้อน เน้นนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะเรามีโปรแกรมที่วางไว้ต้องออกกำลังขากันอีกเยอะ สำหรับโปรแกรมวันนี้ขอเริ่มต้นด้วยพาทุกคนไปเที่ยวที่ 19. หอศิลป์แห่งชาติ (Nation Gallery) ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี คศ. 1894 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมภาพวาดของศิลปินชื่อดังมากมายทั่วโลกโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามยุคสมัย เช่นภาพวาดในช่วงยุคกลาง ก็มีผลงานของ Leonardo da Vinci หรือภาพวาดสไตล์ Impressionist ของผลงานศิลปินชื่อดังก้องโลก อาทิเช่น Van Gogh, Monet และก็ Renoir นำมาจัดแสดงให้ชมมากกว่า 2300 ภาพวาด เพื่อนของชะนีแคระนางเป็นแฟนพวกภาพวาดนางไม่พลาดรำร้องว่ายังไงก็ต้องแวะมาชมภาพงานเขียนในดวงใจกันเพื่อไม่ให้เสียเวลาชะนีแคระพาแฟนๆไปเที่ยวภายในกันค่ะ
|
ด้านหน้าหอศิลป์แห่งชาติ (Nation Gallery) |
|
ห้องโถงทางเข้าชมภาพวาด |
|
ภายในมีการแบ่งภาพวาดเป็นยุคต่างๆ |
|
ภาพวาดในช่วงสมัยยุคกลาง |
|
ภาพวาดของ Turner |
ภาพวาดของศิลปินอังกฤษผู้โด่งดังนามว่า J. M.W Turner ถูกวาดขึ้นในราวคศ. 1839 ภาพนี้เด่นในเรื่องการเล่นแสงท้องฟ้าในตอนพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกนะ ลองเดาใจศิลปินกันดูนะค่ะ
|
หนึ่งในภาพวาดอันโด่งของศิลปินชาวฝรั่งเศส โคลด โมแน (Claude Monet) |
|
มาแล้วภาพวาดของ Van Gogh |
|
ภาพดอกทานตะวันในตำนาน ผลงานของ Van gogh |
สำหรับคนที่สนใจอยากไปชมนะค่ะ ทางพิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน วันเสาร์-วันพฤหัสเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. แต่สำหรับวันศุกร์เปิดตั้งแต่ 10.00-21.00 น.ค่ะ ไม่เสียค่าเข้าแต่อย่างใด ถ้าเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินให้ลงที่สถานี Charing Cross อยู่ติดกับจัตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar)
|
จัตุรัสทราฟัลการ์ |
ไปต่อมาถึงหอศิลป์แห่งชาติแล้วต้องมาแวะที่นี่ค่ะ 20. จัตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar) จัตุรัสนี้เป็นอนุสรน์สถานการต่อสู้ยุธนาวีทราฟัลการ์การสู้รบระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส ตรงกลางมีอนุเสารีย์ของลอร์ดเนลสัน วีรบุรษของการสู้รบในครั้งนี้ นอกจากนี้จัตุรัสทราฟัลการ์ยังเป็นศูนย์กลางกรุงลอนดอนมักจะใช้เป็นที่ในการประท้วงและเฉลิมฉลองต่างๆ
|
ลานน้ำพุรอบๆจัตุรัสทราฟัลการ์ |
ช่วงที่ชะนีแคระมาเที่ยวที่ลอนดอนเค้ามีการจัดงานแข่งขันมาราธอนพอดี วันนี้โชคดีชะนีแคระเก็บภาพบรรยากาศงานมาราธอนประจำปี 2015 มาฝากท่านผู้อ่านกัน ซึ่งเส้นทางการจัดการแข่งขันมาราธอนก็อยู่ใกล้กับเวสมินเตอร์
|
สู้สู้ๆ วิ่งสู้ฟัด |
|
ผู้เข้าแข่งขันกับหอนาฬิกาบิกเบน |
|
มีตำรวจและอาสาสมัครเพียบคอยกันนักท่องเที่ยว |
หลังจากได้มีโอกาสได้ดูการแข่งขันวิ่งมาราธอนได้สักพักเราก็ต้องรีบไปเที่ยวกันต่อ สถานที่ต่อไปที่เราจะไปเที่ยวกันนั้นคือ 21. ตลาดแคมแดน (Camden Market) เป็นตลาดที่อยู่ทางตอนเหนือของลอนดอนก็อารมณ์คล้ายๆตลาดจัตุจักรบ้านเรานี่หละค่ะ มีขายเสื้อผ้า อาหาร ของกินนานาชาติ ของฝากที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ แนะนำให้มาเดินเที่ยววันเสาร์อาทิตย์นะค่ะ ผู้คนจะคึกคักมากเป็นพิเศษ
|
Camden Market |
|
วันอาทิตย์คนมาเที่ยวกันเยอะเลย
|
ใกล้ๆกับตลาดแคมเดนมีคลองส่งน้ำ Regent นักท่องเที่ยวสามารถมาล่องเรือชมวิวสองฝั่งได้
|
โซนของตกแต่งบ้าน |
ตลาดแคมเดนเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. สำหรับคนที่สนใจจะแวะมาเที่ยวกันให้นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Camden Town หรือ Chalk Farm
|
Tate modern |
เดินเล่นที่ตลาดแคมเดนเสร็จแล้วก็ดูเวลาและก็โปรแกรมที่วางไว้คิดว่าคงพอจะมีเวลาตามเก็บตกสถานที่เที่ยวที่เรายังไม่ได้ไปได้สักหนึ่งที่เลยลงประชามติกันว่าสถานที่หรือพิพิธภัณฑ์อันไหนน่าสนใจ เพราะในลอนดอนนั้นมีสถานที่เที่ยวและพิพิธภัณฑ์ดีๆมากมายสรุปวันนี้เราเลือกที่จะไปเก็บตกที่นี่ค่ะ 22.หอศิลป์เทต ( Tate Modern) เป็นพิพิธภัณฑ์เป็นที่จัดแสดงศิลปะสากล และศิลปะร่วมสมัย ก่อตั้งขึ้นในคศ. 2000 ที่นี่มีผลงานของศิลปินยุคใหม่ และผู้มีความคิดสร้างสรรค์นำผลงานมาจัดแสดงมากมาย ว่าแล้วชะนีแคระจะพาเที่ยวชมภายในกันคะ
|
ภาพเขียนแอบสแตก (Abstract Art) |
|
ชะนีแคระงงคือศิลปินต้องการสื่ออะไร หรือเราไม่มีศิลปะในหัวใจกันแน่ |
|
เก๋มาก |
|
ไอเดียหลุดโลก |
ชะนีแคระขอบอกมีหลายผลงานที่ชะนีแคระและเพื่อนแอบงงไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ศิลปินต้องการสื่อ หรือเพราะเราไม่อาร์ตพอกันแน่ แต่ไม่เป็นไรค่ะถึอว่ามาเปิดหูเปิดตาได้เห็นอะไรแปลกใหม่ ถ้าใครสนใจต้องการมาดูมาเสพย์งานศิลป์ก็แวะมาเที่ยวกันได้นะค่ะ หอศิลป์เทตเปิดทุกวัน วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. ส่วนวันศุกร์และวันเสาร์เปิดตั้งแต่ 10.00 -22.00 น. สามารถเข้าชมได้ฟรีค่ะ เดินทางโดยสถานีรถไฟใต้ดินให้ลงที่สถานีที่ Southwark หรือ St. Paul's ก่อนจบวันในวันนี้ชะนีแคระมีนัดทานข้าวเย็นกับเพื่อนชาวลอนดอนเกอร์ คืนนี้นางแนะนำให้ไปทานอาหารอินเดียค่ะ ขอบอกอาหารอินเดียที่ลอนดอนอร่อยและมีชื่อเสียง ชะนีแคระแนะนำให้ลองมาทานอาหารอินเดียที่ร้าน Karma indian cuisine มีอยู่หลายสาขา ลองไปทานดูกันนะเลือกสาขาที่ใกล้กับที่พัก ชะนีแคระแปะลิงก์ไว้ให้แล้วนะ
http://www.k-a-r-m-a.co.uk/index.html
วันที่ 5
วันสุดท้ายของทริปลอนดอน ชะนีแคระตั้งใจว่าเป็นวันที่เราจะเก็บสถานที่ที่เรายังไม่ได้ไป และครึ่งวันสำหรับการช็อปปิงซื้อของกันด้วย เช้าวันนี้เราเริ่มต้นไปเที่ยวโซน Greenwich ทางตอนใต้ของฝั่งแม่น้ำเทมส์กันบ้าง เดินทางโดยการนั่งรถไฟสาย DLR ลงที่สถานี Cutty Sark เริ่มต้นเราแวะมาดู
23. เรือเดินสมุทรโบราณ Cutty Sark ก็คือเจ้าเรือโบราณที่ใช้ขนส่งสินค้าที่มีชื่อเสียงของอังกฤษในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในช่วงที่อังกฤษมีอาณานิคมอยู่แทบทั่วโลก เจ้า Cutty Sark เป็นเรือที่เอาไว้ขนใบชาจากเซื่ยงไฮ้มาลอนดอนโดยเฉพาะ เมื่อปี 2007 ได้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ขณะที่กำลังซ่อมแซมทำให้เรือโบราณอายุร้อยกว่าปีลำนี้เสียหายเหลือเพียงแต่เถ้าถ่าน ซึ่งภายหลังรัฐบาลอังกฤษได้ทำการบูรณะซ่อมแซมสร้างเรือได้เสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ชมภายในปี 2012 เพื่อนๆสามารถซื้อตั๋วเข้าไปชมภายในตัวเรือได้ ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 11.00-23.00 น. ส่วนวันอาทิตย์เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 12.00-22.30 น. สนใจก็ลองไปแวะชมกันนะค่ะ
|
เรือโบราณ Cutty Sark |
|
ลองถ่ายมุมไกลดูบ้าง |
|
วิวฝั่งแม่น้ำเทมส์ |
24. พิพิธภัณฑ์ราชนาวีแห่งชาติ ( Nation Maritime Museum) จากประวัติศาสตร์ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าแห่งอาณานิคมที่เป็นนักเดินทางล่องเรือและทำสงครามยุทธนาวีไปทั่วโลก ดังนั้นพิพิธภัณฑ์นี้จึงจัดขึ้นมาเพื่อเป็นการรวบรวมความรู้เกี่ยวกับการเดินเรือของชาวอังกฤษ ประวัติบุคคล และข้อมูลของกองทัพราชนาวีอังกฤษที่เกรียงไกร รวมถึงการทำสงครามยุทธนาวีต่างๆ ชะนีแคระเก็บภาพมาฝากกันให้จุใจเลย
|
พิพิธภัณฑ์ราชนาวีแห่งชาติ |
|
เรือพระที่นั่งโบราณ |
|
ลอร์ดเนลสัน |
ลอร์ดเนลสัน วีรบุรษของชาวอังกฤษ เค้าคือผู้บัญชาการกองทัพเรือของอังกฤษสามารถทำสงครามยุทธนาวีที่ทราฟัลการ์ชนะกองทัพเรือของฝรั่งเศสได้ ซึ่งระหว่างสงครามกำลังสู้รบอยุ่นั้น ลอร์ดเนลสันได้ถูกยิงและได้รับบาดเจ็บสาหัส เค้าเสียชีวิตหลังจากที่กองทัพอังกฤษได้ชัยชนะ
|
ภายในพิพิธภัณฑ์ |
สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าชมได้ฟรี ทางพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00- 17.00 น. สามารถเดินทางโดยรถไฟสาย DLR ที่สถานี Cutty Sark
|
Greenwich Park |
ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ราชนาวีแห่งชาติมีสวนสาธารณะ Greenwich ขนาดใหญ่ บรรยากาศร่มรื่นดีเดี่ยวเราเดินผ่านสวนสาธารณะเพื่อขึ้นเนินเขาไปดูหอดูดาวกัน
|
วิวมุมสูงเห็นตัวเมืองลอนดอนอยู่ด้านหลัง |
ในที่สุดก็ถึง
25. หอดูดาวหลวง ( Royal Observatory) หอดูดาวหลวงถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชาลส์ที่ 2 คศ. 1675 สร้างขึ้นเนื่องจากในสมัยนั้นดาราศาสตร์นั้นมีบทบาทสำคัญต่อการเดินเรือของอังกฤษเป็นอย่างมาก และที่นี่เดี่ยวเราจะมาดูเส้นแบ่งเวลาของโลกที่กรีนิชกัน
|
หอดูดาวหลวงกรีนิช |
ทำไมเวลาที่กรินิชจึงใช้เป็นเวลามาตรฐานโลก เพราะที่นี่ถูกกำหนดให้เส้นเมริเดียนแรก หรือเส้นเมอริเดียน 0 องศาลากผ่านเมืองกรินิช เจ้าเส้นเมริเดียนนี้จะใช้เป็นเส้นแบ่งวันสากล
|
คนต่อคิวถ่ายรูปที่เส้นลองติจูด 0 กันเพียบ |
เส้นลองจิจูด จะเป็นเส้นที่ถูกกำหนดขึ้นมาให้แบ่งเวลาของโลกออกเป็นซึกตะวันออก กับตะวันตก โดยกำหนดให้เป็นเส้นลองจิจูด 0 องศาที่กรินิช ส่วนประเทศไทยจะอยู่ที่เส้นลองติจูดที่ +7 องศา 30 ลิปดาตะวันออก ซึ่งหมายความว่าเวลาที่ประเทศไทยจะเร็วกว่าเวลามาตรฐานโลกอยู่ 7 ชั่วโมง ตัวอย่างง่ายๆ หากตอนนี้เวลาที่กรินิชเป็นเวลาเที่ยงตรง เวลาที่ประเทศไทยก็จะเป็นเวลา 1 ทุ่มคะ
|
บรรยากาศด้านใน |
|
กล้องส่องดูดาว
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะเดินทางดูชมหอดูดาวหลวงกัน ที่นี่เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 -17. 00 น. การเดินทางก็นั่งรถไฟสาย DLR แล้วมาลงที่สถานี Cutty Sark แล้วเดินตามป้ายมาสัก 10 นาทีก็ถึงค่ะ
สวนสาธารณะไฮค์ปาร์ค
ไปต่อกันที่อีกสัญลักษณ์ของลอนดอนกันนะคะ วันนี้เราจะพาไปเที่ยวพื้นที่ปอดสีเขียวของชาวลอนดอนนั่นก็คือ 26. สวนสาธารณะไฮค์ปาร์ค (Hyde Park) ไฮค์ปาร์คเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มีเนื้อที่มากกว่า 800 ไร่ เป็นที่ชาวลอนดอนมักจะมาออกกำลังกาย พบปะสังสรรค์กัน ภายในสวนมีต้นไม้ใหญ่มากมาย โดยเฉพาะพวกกระรอกน้อยเหล่านี้มีให้เห็นเยอะแยะเลยค่ะ
กระรอกปีนต้นไม้
กระรอกกำลังหาอาหาร
บรรยากาศลานหญ้ากว้างๆของสวนไฮค์ปาร์ค
สำหรับคนที่สนใจจะมาเที่ยวที่สวนสาธารณะไฮค์ปาร์ค สวนสาธารณะเปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลาตีห้า จนถึงเที่ยงคืน สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีที่ Hyde Park Conner
ตอนนี้ดูเวลาแล้วบ่ายสองครึ่งแล้วยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย เอาเป็นว่าชะนีแคระจะพาท่านผู้อ่านไปหาของกินอร่อยๆเอาใจผู้ที่ชื่นชอบแฮมเบอร์เกอร์กัน วันนี้เราจะพาไปกินที่ร้านดังชื่อว่า Patty &Bun ซึ่งมีหลายสาขา แต่ชะนีแคระเลือกที่จะกินในย่านแหล่งช็อปปิ้งที่ถนน Oxford Street กินเสร็จเราจะได้มีเวลาช็อปปิ้งหาซื้อของฝากก่อนจบทริปเที่ยวลอนดอนกันคะ
ร้านเบอร์เกอร์
ชะนีแคระลองสั่งชุดเบอร์เกอร์ไก่ มีเฟรนฟรายในเซ็ต กับลองสั่งน่องไก่บาร์บีคิวมาชิม
เบอร์เกอร์ไก่อร่อยเว่อร์
รสชาติอาหารใช้ได้ค่ะ ขนาดชะนีแคระไม่ใช่คนชอบเบอร์เกอร์แต่ขอบอกที่ร้านนี้อร่อยค่ะ และราคาไม่แพง แต่ขอแนะนำนะคะถ้าหากไปเวลาเที่ยงคนจะเยอะมาก ต้องจองคิวหรือไปรอกันนานทีเดียว นี่ขนาดชะนีแคระไปถึงร้านเกือบบ่ายสามยังต้องรอคิวเกือบ 20 นาที คนเยอะจริงๆ
ถนนแห่งการช็อปปิ้ง
27. ถนนอ็อกฟอร์ด (Oxford Street) ถนนแห่งการช็อปปิ้งใจกลางกรุงลอนดอน ถนนเส้นนี้มีความยาวตลอด 1.6 กิโลเมตร ซึ่งตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยห้างร้าน แบรนด์เนมชั้นนำคอยเอาใจบริการนักท่องเที่ยวที่ชอบจับจ่ายซื้อของกันนับว่าเป็นสีสันที่ห้ามพลาดของขาช็อปทั้งหลาย
ถนนอ็อกฟอร์ด
ผู้คนขวักไคว่เต็มสองข้างทาง
หลังจากเดินเล่นซื้อข้าวของได้นานเกือบสองชั่วโมง ชะนีแคระดูเวลาแล้วเกือบหกโมงเย็นแล้วเราต้องรีบบึ่งกลับโรงแรมเพื่อจะไปเอาสัมภาระที่ทิ้งไว้ เพราะเราต้องกลับไปขึ้นรถไฟรอบสองทุ่มเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ปารีสกัน
สำหรับทริปลอนดอนนี้ชะนีแคระประทับใจอะไรหลายอย่างๆ ไม่ว่าจะแสงสีเสียง ความงามทันสมัยของบ้านเมือง และประวัติศาสตร์ต่างๆของแดนผู้ดีอังกฤษสมกับเป็นเมืองมหานครใหญ่ของโลกจริงๆ ชะนีแคระขอบอกว่าที่ลอนดอนนั้นมีสถานที่เที่ยวดีๆมากมาย โดยเฉพาะพวกพิพิธภัณฑ์ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ดีๆเยอะมาก แถมเข้าฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ชะนีแคระอยากให้ที่รัฐบาลไทยเราสร้างพิพิธภัณฑ์และส่งเสริมให้คนไทยเข้าพิพิธภัณฑ์ดีๆแบบนี้บ้างแบบปลูกฝังกันแต่เด็กเลย สำหรับ 5 วันในการเที่ยวที่ลอนดอนชะนีแคระยังไปเที่ยวไม่ทั่วหวังว่าถ้าหากมีโอกาสก็อยากจะกลับมาเที่ยวที่ลอนดอนอีกครั้ง สำหรับวันนี้ชะนีแคระคงต้องลาท่านผู้อ่านไปก่อน ส่วนตอนหน้าชะนีแคระมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองบาธ (Bath)แบบ one day trip ไว้จะมาเล่าต่อในตอนต่อไป ก่อนจากกันขอขอบคุณทุกการติดตามวันนี้ลาไปก่อนค่ะพบกันใหม่ในตอนหน้าที่ชื่อว่า เที่ยวเมืองบาธ (Bath) เมืองบ่อน้ำพุร้อนแห่งโรมัน
|