สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ชะนีแคระจะพาไปเที่ยวเมืองน่ารักๆแสนโรแมนติกในประเทศอังกฤษแบบเช้าเย็นกลับกันนะคะ วันนี้จะพาไปเที่ยวที่เมืองบาธ (Bath) เมืองน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์โบราณแห่งโรมัน สำหรับความเดิมตอนที่แล้วชะนีแคระพาไปเที่ยวลอนดอน หากใครยังไม่ได้อ่าน ชะนีแคระแปะลิงก์ไว้ให้แล้วนะ
เที่ยวลอนดอน ตอนที่ 1
http://aiyaaroundtheworld.blogspot.fr/2015/11/in-uk-london-1.html
เที่ยวลอนดอน ตอนที่ 2
http://aiyaaroundtheworld.blogspot.fr/2016/02/in-uk-london-2.html
เมืองบาธ (Bath) เป็นเมืองอยู่ทางตะวันตกของลอนดอนไปราว 156 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ และเคยเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของอาณาจักรโรมันในอดีต และชาวโรมันได้สร้างโรงอาบน้ำศักดิ์สิทธ์ไว้ ปัจจุบันเมืองบาธแห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์ และได้มีฐานะเป็นเมืองมรดกโลกตั้งแต่ปี คศ. 1987 ทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกแวะมาเยี่ยมไม่ขาดสาย เนื่องด้วยบรรยากาศของตัวเมือง อาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่มีความสวยงามน่าหลงไหลและสุดแสนโรแมนติกนั่นเอง
สำหรับการเดินทาง
เราสามารถเดินทางไปเมืองบาธได้ดังนี้
1. โดยทางรถไฟจากลอนดอน ก็ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ เริ่มต้นที่สถานี London Paddington ไปลงที่สถานีปลายทาง Bath spa ใครสนใจเดินทางด้วยรถไฟ ชะนีแคระแปะลิงค์การรถไฟของอังกฤษไว้แล้วนะ
http://www.nationalrail.co.uk/ แต่ราคาตั๋วก็ค่อนข้างแพงนิดนึง ถ้าจองล่วงหน้าก็อาจจะได้ราคาถูก
2. รถโค้ช ชะนีแคระเลือกเดินทางด้วยรถโค้ช เน้นถูกค่ะใช้เวลาเดินทางร่วมเกือบ 3 ชั่วโมงราคาเพียงแค่ 10 กว่าปอนด์เท่านั้น ถ้าไม่คิดไรมากก็เน้นดูวิวทิวทัศน์สองข้างทางค่าเวลาไป สำหรับการเดินทางก็เริ่มต้นที่สถานีขนส่ง Victoria Coach station ไปลงที่สถานีปลายทาง Bath ชะนีแคระใช้บริการรถโค้ชของบริษัทนี้เลย National Express แปะลิงค์ไว้ให้แล้วนะคะ
http://www.nationalexpress.com/fr/home.aspx
|
สถานี Victoria Coach station |
เช้านี้ชะนีแคระตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะเราต้องไปสถานีขนส่ง Victoria Coach station แต่เช้าตรู่ เริ่มออกเดินทางเที่ยวแรกของวัน เวลา 07.30 น. ถึงปลายทางที่เมืองบาธ เวลา 10.30 น. ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดร่วม 3 ชม.
|
รอรถออกที่ชานชาลาที่ 4 |
ชะนีแคระมาถึงล่วงหน้า 20 นาทีก็เดินเล่นหาของกิน เข้าห้องน้ำเตรียมเสบียงก่อนออกเดินทาง ที่สำคัญอย่าลืมปริ้นเอกสารการจองตั๋วรถมาด้วยนะคะ เพราะเจ้าหน้าทีจะเช็คเอกสารดูว่าเอกสารชื่อตรงกันไหม ยังไงก็เตรียมไปให้พร้อมนะคะ
|
สถานีรถบัสที่เมืองบาธ |
หลังจากหลับไปหลายตื่น ก็มาถึงสถานีปลายทางที่เมืองบาธแล้วค่ะ ไม่รอช้าออกเดินทางเที่ยวเลย สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองบาธชะนีแคระใช้วิธีเดินเท้าเอาค่ะ เพราะเมืองบาธเป็นเมืองเล็กๆสามารถเดินเที่ยวเองได้ 4-5 ชม. ก็รอบเมืองแล้ว แต่ถ้าใครขี้เกียจเดินหรือผู้ร่วมเดินทางมีเด็กเล็ก และผู้ใหญ่อายุเยอะ เดินนานๆไม่สะดวกก็สามารถใช้บริการรถบัสเปิดหลังคา Hop in Hop off เที่ยวรอบเมืองได้นะคะ
|
รถบัสเปิดหลังคาเที่ยวเมืองบาธ |
|
บรรยากาศในเมืองบาธ |
สำหรับสถานที่เที่ยวแห่งแรก ชะนีแคระพาไปเยี่ยมชม
1. โรงอาบน้ำโรมัน (Roman Baths) ในเมืองบาธมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติหลายแห่งที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน จากประวัติสมัยที่ชาวโรมันได้เข้ามารุกรานเกาะอังกฤษ ชาวโรมันได้สร้างสถานอาบน้ำแร่ และวิหารแบบโรมันขึ้นตั้งแต่คศ. 75 และตั้งชื่อสถานที่นี้ตามชื่อท้องถิ่นของเทพธิดาแห่งน้ำ Sulis ผู้เทียบเท่ากับเทพธิดาแห่งน้ำของโรมันคือ Minerva โดยมีวัตถุประสงค์แรกเริ่มการสร้างเพื่อการบูชาต่อเทพธิดา Sulis Minerva อย่างที่สองคือการสร้างสถานที่อาบน้ำแร่เพื่อความสะอาดบริสุทธิ์ และเพื่อการบำบัดรักษาโรค
|
ภายในโรงอาบน้ำโรมัน |
|
มีเจ้าหน้าทีมาแต่งชุดนักรบโรมันมาเป็นนายแบบถ่ายรูปให้ด้วยคะ |
|
ต้นกำเนิดน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นจากใต้ดินและไหลเข้าสู่บ่อเก็บน้ำที่ชาวโรมันสร้างไว้ |
|
หน้าตาเทพธิดาแห่งน้ำของโรมัน Sulis Minerva |
ภายในโรงอาบน้ำโรมันแห่งนี้ได้มีจัดแสดงวัตถุที่มีชื่อเสียงที่ถูกขุดค้นพบได้ในซากปรักหักพังของวิหารนั่นคือศีรษะเคลือบทองแดงของเทพธิดาแห่งน้ำ Sulis Minerva
|
ตัวอย่างจำลองโรงอาบน้ำและวิหารของโรมันในสมัยอดีต |
|
เหรียญกษาปณ์ที่ถูกขุดค้นพบภายในก้นบ่ออาบน้ำโรมัน |
ปัจจุบันโรงอาบน้ำโรมันแห่งนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน ยกเว้นวันหยุดคริสมาต์วันที่ 25-26 ธันวาคม เปิดทำการตั้งแต่เวลา 09.30 น-17.00 น. หากหน้าร้อนตั้งแต่เดือนกรกฏาคม- สิงหาคม เปิดทำการตั้งแต่เวลา 9.00- 21.00 น. ราคาค่าเข้าผู้ใหญ่ 15 ปอนด์ เฉพาะหน้าร้อนเดือนกรกฏาคม- สิงหาคมราคา 15.50 ปอนด์
2. ฺมหาวิหารบาธ (Bath Abby ) มหาวิหารบาธเป็นมหาวิหารใหญ่ประจำเมือง ถูกสร้างขึ้นในคศ. 7 และถูกบรูณะปรับปรุงในหลายๆสมัย ส่วนตัวสถาปัตยกรรมของมหาวิหารจะเป็นแบบสไตล์โกธิค ซึ่งตัวมหาวิหารจะอยู่ติดกับโรงอาบน้ำโรมันเลย สามารถเข้าชมฟรีเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 9.30 น- 17.30 น.
|
ด้านหน้าของมหาวิหารบาธ จะอยู่ติดกันกับโรงอาบน้ำโรมัน |
|
ภายในมหาวิหารบาธ |
|
ภาพกระจกสี |
ดูนาฬิกาแล้วบ่ายโมงกว่าแล้วท้องหิวแล้วค่ะ ชะนีแคระเดินหาของกินแปป เดินมาเรื่อยๆในย่านร้านค้า ร้านอาหารใจกลางเมืองบาธ
|
ย่านร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆของเมืองบาธ |
มื้อเที่ยงนี้ขอเป็นอะไรง่ายๆ ลงตัวกันที่เคบับ ( Kebab) ถูกและอร่อย ชะนีแคระหิวจัดลืมถ่ายรูปมาให้ผู้อ่านชมกัน
|
เคบับ Kebab |
ท้องอิ่มแล้ว ชะนีแคระพาเที่ยวกันต่อไปที่
3.สะพานพัลน์นีย์ (Pluteney Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่สวยงามแห่งหนึ่ง และมีสิ่งปลูกสร้างบนตัวสะพานซึ่งเปิดเป็นร้านค้าต่างๆด้วย
|
สะพานพัลน์นีย์ |
|
มีบริการล่องเรือให้กับนักท่องเที่ยวด้วย |
|
บรรยากาศสวยงาม โรแมนติกสุดๆ |
|
บรรยากาศสวยๆของตัวเมืองบาธ
|
4 . The Circus คืออาคารสิ่งก่อสร้างที่ถูกออกแบบให้เป็นรูปวงกลม เป็นผลงานของสถาปนิกชื่อดังนามว่า John Wood (คนพ่อ) ถูกสร้างขึ้นในปีคศ. 1754 โดยชื่อเดิมเรียกว่า King's Circus และคำว่า Circus มาจากภาษาลาตินที่แปลว่า วงแหวนนั่นเอง
ชะนีแคระเดินเล่นเก็บบรรยากาศรอบเมืองบาธ วันนี้อากาศดีจริง แดดดี ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป
|
ดอกไม้ตามสวนในเมืองบาธ |
|
ความร่มรื่นในเมืองบาธ |
หลังจากเดินเล่นที่เมืองบาธได้สักพัก ดูนาฬิกาเกือบบ่ายสี่โมงครึ่งแล้ว ได้เวลาต้องเดินทางกลับไปที่สถานีรถบัสที่เมืองบาธแล้วเพราะชะนีแคระซื้อตั๋วรอบกลับไว้ที่ตอนห้าโมงเย็นเพื่อกลับเข้ากรุงลอนดอนเย็นนี้ การเที่ยวที่เมืองบาธในวันนี้เป็นอะไรที่ประทับใจชะนีแคระมากเพราะเมืองบาธเป็นเมืองเล็กๆ เก่าแก่ และเต็มไปด้วยมนต์เสนห์ความโรแมนติก ยิ่งบรรยากาศสบายๆ อากาศดีๆแบบนี้แล้วทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมากทีเดียว อีกทั้งผู้คนก็น่ารัก และเป็นเมืองท่องเที่ยวไม่ต้องกลัวว่าจะเที่ยวลำบาก ชะนีแคระขอบอกว่าการเดินทางมาไม่ยุ่งยาก แถมสามารถเที่ยวง่ายๆได้ด้วยตนเอง หากท่านผู้อ่านได้มีโอกาสได้มาเที่ยวลอนดอน หรือมาเที่ยวที่อังกฤษก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันที่เมืองบาธแห่งนี้นะคะ สำหรับวันนี้ชะนีแคระขอลาไปก่อนพบกันตอนหน้าจะพาไปเที่ยวเมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชาค่ะ