สวัสดีคะท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน หลังจากที่เราพาไปเที่ยวสเปนกันแล้ว วันนี้เราจะพาเพื่อนๆนักอ่านเดินทางไปทางยุโรปเหนือกันบ้าง ซึ่งวันนี้เราจะไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์กันคะ สำหรับท่านผู้อ่านที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้วสามารถติดตามตอนที่ชื่อว่า เที่ยวเมือง Toledo เมืองหลวงเก่าของประเทศสเปนที่โลกไม่ลืม
http://aiyaaroundtheworld.blogspot.fr/2014/06/toledo.html
เมืองอัมสเตอร์ดัม(Amsterdam) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนอเธอร์แลนด์ ที่มาของชื่อนั้น อัสเตล เป็นชื่อของแม่น้ำ ดัม แปลว่า เขื่อน ดังนั้นจึงแปลโดยรวมว่า เขื่อนที่อยู่ริมแม่น้ำอัมสเตล เมืองอัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองที่คล้ายเกาะแล้วมีคูคลองล้อมรอบ เราจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมืองอัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองที่มีคูคลองเชื่อมมากมายทั้งเมืองเพื่อใช้ในการสัญจร การป้องกันข้าศึกศัตรู จนบางครั้งได้รับฉายาว่าเป็นเมืองเวนิสของยุโรปตะวันตกเลยทีเดียว
|
คูคลองรอบๆเมือง |
สำหรับการเดินทางชะนีแคระออกเดินทางจากปารีส โดยรถไฟ TGV มุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือวิ่งผ่านประเทศเบลเยี่ยมและจอดปลายทางที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชม. กว่าๆเราก็มาถึงเมืองอัมสเตอร์ดัมกันนะคะ นับว่าสะดวกมากที่เดียว และในทริปครั้งนี้เราเดินทางทั้งหมด 4 วัน 3 คืน เที่ยวในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นหน้าร้อนของยุโรป ช่วงนี้เป็นเวลาที่อากาศกำลังดี ท้องฟ้าสดใสและเรามีเวลาเที่ยวนานกว่าปกติ เพราะกว่าพระอาทิตย์จะตกก็เกือบสี่ทุ่ม เราเลยมีเวลาเดินดูอะไรได้เยอะ
สำหรับการเดินทางภายในเมืองอัสเตอร์ดัม ผู้คนนิยมใช้รถ Tram หรือที่เรียกว่ารถรางนั้นเอง นอกจากรถรางจะเป็นที่นิยมแล้ว การขี่จักรยานในเมืองอัสเตอร์ดัม ก็เป็นสิ่งที่นิยมไม่แพ้กันที่เดียว เพราะรัฐบาลที่นี่ส่งเสริมรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานเพื่อลดมลภาวะ ลดการใช้พลังงาน ลดโลกร้อน รัฐบาลที่นี่ได้ออกแบบพื้นที่ถนนให้มีเลนพิเศษสำหรับคนปั่นจักรยานโดยเฉพาะซึ่งมีความปลอดภัยที่เดียว ดังนั้นแล้วมาถึงอัสเตอร์ห้ามพลาดลองขี่จักรยานกันดูนะคะ ซึ่งที่นี่เค้าก็มีร้านให้เช่าจักรยานเอาใจนักท่องเที่ยวทุกมุมเมืองเลยคะ
|
รถรางที่อัมสเตอร์ดัม |
|
บรรยากาศภายในรถราง |
|
ลานจอดจักรยาน |
หลังจากที่เราเดินทางมาถึงและเช็คอินเข้าทีพักแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทางเที่ยวกันเลย โดยสถานที่แรกที่เราจะพาไปเที่ยวก็คือ
พิพิธภัณฑ์ไรค์ (Rijksmuseum) พิพิธภัณธ์ไรค์ ถือว่าเป็นพิพิธภัณธ์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงอัมสเตอร์ดัม ถูกสร้างขึ้นใน คศ. 1885 เป็นที่รวบรวมผลงานศิลปะทุกแขนงของประเทศเนเธอร์แลนด์และชาวดัตช์ ที่พิพิธภัณธ์แห่งนี้มีห้องที่จัดแสดงนิทรรศการผลงานภาพวาดมากกว่า 260 ห้อง ที่เปิดให้เข้าชมกัน
|
พิพิธภัณธ์ไรค์ |
|
ตัวอย่างผลงานภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่จัดแสดงในพิพิธภัณธ์ไรค์ |
เราใช้เวลาเที่ยวชมในพิพิธภัณธ์ได้สัก 3-4 ชม. เราก็ออกมาเดินเล่นแวะชมเมืองหาของกินกันนะคะ และนี่เลยเจอของแปลกคะ ตุ้ขายแฮมเบอร์เกอร์ ของทอด ไส้กรอก ซึ่งเราสามารถหยอดเหรียญเลือกกดเมนูที่เราอยากจะกินได้ เลยซึ่งแปลกดีคะไม่เคยเห็นเลย เพิ่งจะมาเจอที่อัมสเตอร์ดัมนี่แหละ
|
ตู้ขายอาหารอัตโนมัติ |
หลังจากแวะพักหาของกินรองท้องแล้วเราไปกันต่อเลยคะ ที่ตลาดขายพวกดอกทิวลิปและก็ของที่ระลึกต่างๆ ซึ่งจะอยุ่ใกล้ๆกับหอนาฬิกาใจกลางเมืองอัสเตอร์ดัม ที่นี่มีสินค้ามากมายแต่จะเน้นไปที่พวกดอกทิวลิป ดอกไม้ต่างๆซะมากกว่า และก็ยังมีร้านขายพวกชีสซึ่งเจ้าชีสก้อนกลมๆ ที่ขึ้นชื่อของที่นี่เลยคะ หากมีโอกาสแวะผ่านไปอย่าลืมแวะชิมที่นี่เค้าให้ชิมฟรี ชะนีแคระเลยชิมจนอิ่มเลยคะ
|
ตลาดขายเมล็ดทิวลิป ต้นไม้ ของที่ระลึกต่างๆ |
|
ร้านขายชีส พนักงานคนสวยน่ารักให้ชิมฟรีจนอิ่มเลยคะ |
|
หอนาฬิกาใกล้กับตลาดขายดอกไม้ |
และสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นสีสันของอัมสเอตร์ดัมก็นี้เลยคะ
Red light district ถ้าแปลตรงตัวก็ย่านสีแดง หรือย่านโคมเขียวของไทยนั่นเอง ที่ย่านนี้จะเป็นแหล่งสุนทรีย์สำหรับคุณผู้ชายที่ชอบความตื่นเต้น จะมีสาวน้อยนุ่งน้อยห่มน้อย นั่งบริการอยุ่ในตู้กระจก แล้วคอยเรียกเหล่าบรรดาคุณผู้ชายที่สนใจเข้าไปต่อลองราคากันได้ โฮ ที่นี่เค้าทำอย่างเสรีจริงๆ มีเซ็กช็อปคอยบริการ หรือเราสามารถหาคาเฟ่กัญชาได้อย่างเปิดเผย พูดตรงๆคือที่อัมสเตอร์ดัม ซื้อขายบริการ และสูบกัญชาไม่ผิดกฏหมายนะคะ เค้าถึงว่่าอัสเตอร์ดัมเป็นสวรรค์ของเหล่าผีเสื้อราตรีทั้งหลาย
|
Red light district |
|
Sex shop |
ผ่านไปแล้ว 1 คืนที่อัมสเตอร์ดัม เราก็มาเริ่มเดินทางในเช้าวันที่่ 2
บ้านแอน ฟรังค์(Anne Frank) บ้านของแอนเด็กสาวชาวยิวอายุ 13 ปีที่อาศัยซ่อนตัวอยู่ในบ้านพร้อมกับครอบครัว เพื่อหลบซ่อนตัวจากการจับกุมตัวของทหารนาซี ฮิตเลอร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอได้ซ่อนอยุ่ในบ้านหลังนี้เป็นเวลากว่า 2 ปี ในระหว่างที่ซ่อนตัวอยุ่นั้นเธอก็ได้เขียนไดอารี่บันทึกส่วนตัว ซึ่งบันทึกถึงการหลบซ่อนตัวและความโหดร้ายของนาซี แต่แล้วในที่สุดเธอและครอบครัวก็ถูกทหารนาซีจับกุมตัวได้ และถูกส่งตัวไปค่ายกักกันยิวที่เอาชวิตซ์ประเทศโปแลนด์และเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งพ่อของเธอเป็นคนเดียวที่รอดมาจากการตายในระหว่างสงคราม และได้กลับมาบ้านและค้นพบไดอารี่ของเธอ และส่งไปตีพิมพ์ชื่อว่า Diary of a young girl. ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนังสือที่ยอดขายสูงสุดไปทั่วโลก และบ้านหลังนี้ก็ได้กลายเป็นพิพิธภัณธ์นั่นเอง
|
อนุเสาวรีย์ของแอน ฟรังค์ |
|
พิพิธภัณฑ์บ้านแอน ฟรังค์ |
วันนี้อากาศค่อนข้างแจ่มใสเราจึงเดินเล่นเก็บบรรยากาศกรุงอัสเตอร์ดัมมาให้ชมกันแบบจุใจเลยคะ เริ่มที่จัตุรัสกลางเมืองที่ชื่อ จัตุรัสดัม (Dam square)
|
ย่าน shopping |
|
จัตุรัสใจกลางเมือง ดัมแสควร์ |
|
ถ้าใครเหนื่อยขี้เกียจเดิน เวลาเที่ยวน้อย นั่งรถบัสทั่วรอบเมืองเลยคะ |
สำหรับวันที่ 3 ตื่นเช้าแล้ว ถ้าใครที่เป็นคนรักงานศิลปะห้ามพลาดแวะชม
พิพิธภัณฑ์แวน โก๊ะ( Van Gogh Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณธ์ที่รวบรวมผลงานภาพวาดสีน้ำมันที่มากที่สุดของแวน โก๊ะนักจิตกรสไตย์เพชั่นนิส ที่โด่งดังไปทั่วโลก ในคริสตวรรษที่ 19 นอกจากนี้ยังมีผลงานของนักจิตรกรชื่อก้องโลก อย่าง Cloude Monet ที่นำมาจัดแสดงด้วย
|
พิพิธภัณธ์แวน โก๊ะ |
|
ตัวอย่างภาพวาดผลงานของแวน โก๊ะ |
หลังจากเที่ยวพิพิธภัณธ์แวน โก๊ะ ก็เดินเล่นไปเรื่อยจนเจอเจ้าสิ่งนี้ สวนสาธารณะเล็กๆที่มีรูปปั้นเจ้าตัวเงินตัวทอง เค้าเล่ากันว่าสมัยที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นอาณานิคมของชาวดัตช์ เค้าก็ได้กวาดต้อนนำคนอินโดนีเซีย อาหาร และก็เจ้าตัวเงินตัวทอง ที่ชาวอินโดนีเซียเรียกว่า โคมาโดดร้าก้อนมาด้วย คิดว่าที่นี่คงคล้ายๆเป็นอนุเสาวรีย์ที่ระลึกอะไรประมาณนั้น
|
สวนตัวเงินตัวทอง |
|
คนเล่นหมากรุกยักษ์ |
เราก็ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ (Vondel Park) ที่นี่ก็เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่ประชาชนส่วนใหญ่ชอบมาออกำลังกายกัน หนุ่มสาวมาพรอดรัก บรรยากาศภายในสวนร่มรื่นมากเลยคะ
|
บรรยากาศในสวนสาธารณะ |
|
บรรยากาศสดชื่น ร่มรื่นมาก |
และก็มาถึงการเดินทางในวันสุดท้ายวันที่ 4 แล้วนะคะ เราตัดสินใจว่าจะมาคอยตามเก็บกิจกรรมที่เรายังคิดว่ายังไม่ได้ทำในกรุงอัมสเตอร์ดัมกัน วันนี้ตอนเช้าเราจะไปเที่ยวตลาดกัน ตลาดนี้ชื่อว่า Albert Cupmarkt ซึ่งจะมีสินค้ามากมากยวางขายทั้งอาหาร เสื้อผ้า ดอกไม้ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ สารพัดสิ่งอัน ถ้าเพื่อนๆหรือท่านผู้อ่านมีเวลาเหลือๆก็ลองมาแวะชมดูข้าวของกันได้นะคะ
|
ตลาดนัดชื่อดัง |
และกิจกรรมสุดท้ายก่อนที่เราจะเดินทางกลับกันในวันนี้ก็คือการล่องเรือชมเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่นี้ก็มีบริการล่องเรือมากมายหลายบริษัท ราคามีหลากหลายลองเลือกหาดูแววกัน แต่ขอคอนเฟิร์มห้ามพลาดกิจกรรมล่องเรือชมแม่น้ำอัมสเตล และคูคลองรอบๆ และวิวบรรยากาศของเมืองอัมสเตอร์ดัมกัน
|
ล่องเรือชมแม่น้ำอัมสเตล |
|
บรรยากาศริมสองฝั่งคูคลองในเมืองอัมสเตอร์ดัม |
ในความรู้สึกของข้าเจ้ารู้สึกว่าอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่น่ารัก สงบ อบอุ่นผู้คนเอาใจใส่สภาพแวดล้อมธรรมชาติ มีเชื้อชาติวัฒนธรรมหลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่มีเสรีภาพไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของฟรีเซ็ก สามารถเสพย์กัญชาได้อย่างถูกกฏหมาย ซึ่งหลายๆอย่างดูเหมือนจะขัดแย้งกันในตัวมันเอง แต่มันก็มีความต่างที่ลงตัวที่คุณจะต้องเดินทางมาสัมผัสเอง ดังนั้นหากท่านผู้อ่านสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวยุโรป อัมสเตอร์ดัมจึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันที่เดียวคะ สำหรับวันนี้ชะนีแคระขอลาไปก่อน พบกับตอนต่อไปจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวเมืองวิชชี่ Vichy เมืองแห่งน้ำแร่ธรรมชาติของประเทศฝรั่งเศสกันนะคะ
ชอบเนเธอแลนด์ขึ้นมาในบัดดล
ตอบลบภาพก็สวยมีสีสันน่าสนใจ
เรื่องนี้สนุกกว่าทุกเรื่องเลย ชอบอ่ะ
ขอบคุณค้าพี่เม้ย
ตอบลบ