วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ชะนีแคระ in UK พาเที่ยวลอนดอน ( London) ประเทศอังกฤษ ตอนที่ 2

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน ช่วงที่ผ่านมาชะนีแคระไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่เพราะมั่วยุ่งกับการงาน  ตอนนี้พอมีวันหยุดยาวๆก็เร่งปั่นต้นฉบับที่ค้างไว้  วันนี้สัญญาว่าจะพาไปเที่ยวลอนดอนกันต่อในตอนที่ 2 สำหรับคนที่ยังไม่อ่านตอนแรก ก็คลิกเข้าไปอ่านบทความเดิมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลยคะ http://aiyaaroundtheworld.blogspot.fr/2015/11/in-uk-london-1.html

วันที่ 3

 เมื่อวานนี้ชาวคณะตะลุยเที่ยวจนปวดแข้งปวดขาเหนื่อยจนหมดแรง  วันนี้เราจึงปรับกลยุทธ์กันใหม่เอาเป็นว่าจะเน้นเที่ยวแบบสบายๆแล้วกันไม่เน้นล่าแต้ม Rc  เช้านี้เริ่มต้นกันที่นี่เลยคะตามความใฝ่ฝันของชะนีแคระ  15 ตลาด Portobello Market ที่ Notting Hill สำหรับแฟนๆป้าจูเลียร์หรือคอหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ต้องไม่พลาดวันนี้เราจะมาย้อนรอยหนังดังเรื่องNotting hill กันซึ่งในหนังเรื่องนี้ได้ใช้ตลาด Portobello เป็นฉากดำเนินเรื่องด้วยค่ะ การเดินทางจากโรงแรมของชะนีแคระไม่ไกลจากตลาดมากนัก เราจึงลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งรถเมล์สองชั้นดูบ้างก็ชิวๆไปอีกแบบ  ถ้าใครจะมาโดยทางรถไฟใต้ดินก็ให้ลงที่สถานี Notting Hill Gate

บรรยากาศชั้นสองของรถเมล์อังกฤษ

ในที่สุดก็นั่งมาถึงที่ตลาด Portobello แล้ว ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งขายของเก่า ของสะสม ของแต่งบ้านเก๋ๆ สไตล์วินเทจ  ยังมีเสื้อผ้า ของที่ระลึก รวมถึงทั้งตลาดดอกไม้และมีแหล่งขายอาหารคล้ายๆแบบตลาดนัดจตุจักร  ตลาดรถไฟบ้านเรายังไงยังงั้นเลยมีทุกสิ่งให้เลือกสรร  วันนี้เป็นวันเสาร์คนเยอะมากเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ชะนีแคระเก็บภาพมาฝากกันคะ

มาถึงแล้วถนน Portobello


ร้านขายป้าย  สติกเกอร์ต่างๆ


ร้านขายของเก่าของสะสม


นักท่องเที่ยวเยอะมาก แทบจะเดินไหลตามผู้คนเลย


โซนขายของกิน
ร้านนี้ชื่อเดียวกับในหนังเลย


มื้อเที่ยงฝากท้องง่ายๆที่ตลาดเลย  เรียกอะไรไม่รู้แต่น่ากินจัดไป
สำหรับเวลาเปิดปิดนั้น วันจันทร์- อังคารเปิดตั้งแต่ 8.00-18.30 น วันพฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ เปิดตั้งแต่ 8.00-13 .00 น. ถ้าให้ดีวันเสาร์ของจะเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบของสะสม ของเก่าแนะนำให้มาวันเสาร์นะค่ะ หลังจากเที่ยวที่ตลาดสักพัก หาอะไรง่ายๆทานแล้วก็ได้เวลาเที่ยวกันต่อในสถานที่ต่อไป

 เราเดินลัดเลาะต่อจากตลาดไปไม่ไกลนักเราก็มาถึงที่ 16.สวนสาธารณะ Kensington Park  และพระราชวังเค็นซิงตัน (Kensington palace)  พระราชวังถูกสร้างขึ้นในคศ. ที่ 17 และใช้เป็นที่ประทับของพระราชวงศ์อังกฤษตั้งแต่นั้นมาและได้รับการปรับปรุงขยายเพิ่มเติม พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของพระสมเด็จราชินีนาถวิกตอเรียขณะทรงพระเยาว์ด้วย  และยังเคยเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงไดอาน่าหลังทรงหย่าร้างกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จนกระทั้งสิ้นพระชนม์ในปี 2007

พระราชวังเค็นซิงตัน 

ชะนีแคระเก็บบรรยากาศสวนสาธารณะเค็นซิงตันมาฝากท่านผู้อ่านกัน


ความร่มรื่นของสวนสาธารณะ

มีนกตัวใหญ่ด้วยไม่รู้เรียกว่าอะไร

ฝูงหงษ์มาแย่งเศษขนมปังกับเหล่านกพิราบ


คุณพี่ใจดีมาให้เศษขนมปังกับนกพิราบ

มีบริการเรือถีบด้วยนะ

เด็กๆมาเล่นน้ำกันเต็มเลย ยิ่งตอนบ่ายอากาศดีๆแบบนี้คนออกมาตากแดดเยอะมาก

ดอกเชอรี่บอสซั่มบานแวว


สำหรับคนที่สนใจจะเดินทางมาเที่ยวชมสวนสาธารณะและพระราชวังเค็นซิงตันโดยรถไฟใต้ดินให้ลงที่สถานี High St. Kensington

หลังจากเดินเล่นกันพอสมควร  ชะนีแคระดูเวลาบ่ายสามกว่าแล้วเราก็ต้องรีบเดินลัดเลาะไปต่อวันนี้ยังมีโปรแกรมหลายอย่างที่ต้องตามเก็บ  คราวนี้เราเอาใจแฟนๆน้องๆคุณหนูๆกันบ้างเราจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวที่ 17. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (Natural History Museum) ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้มีการรวบรวมวิวัฒนาการประวัติศาสตร์ของธรรมชาติชีววิทยาจากทั่วทุกมุมโลกมาแสดง  และได้มีการจัดแยกเป็นโซนหมวดหมู่ต่างๆอย่างชัดเจนและน่าสนใจ โดยอาคารถูกก่อสร้างขึ้นในปีคศ. 1870 เป็นสไตล์สถาปัตยกรรมแบบโกธิค เดี่ยวชะนีแคระจะพาไปเที่ยวชมข้างในกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา

ห้องโถงทางเข้า

ทางเข้าของพิพิธภัณฑ์จะเจอโครงกระดูกไดโนเสาร์ตัวใหญ่นี้อยู่กลางห้องโถงเลย พระเอกของงานนี้เลยทีเดียว

รูปปั้นของศาสตราจารย์  Charles Darwin

รูปปั้นสีขาวที่เห็นลิบๆกลางห้องโถงใหญ่เป็นรูปปั้นปรมาจารย์ของโลกด้านชีววิทยานั่นก็คือศาสตรจารย์ชาลว์ ดาร์วิน (Charles Darwin) ผู้เป็นเจ้าของทฤษฎีที่ว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิงนั่นเอง


เป็นต้นโอ๊คยักษ์ที่มีอายุเป็นพันปี ดูขนาดวงปีใหญ่มากขนาดหลายสิบคนโอบ

 เดี่ยวเราจะไปดูโซนสีฟ้าโซนแรกกันก่อน ที่นี่จะมีการจัดแสดงซากของไดโนเสาร์ด้วย

ซากไดโนเสาร์พันธ์กินพืช

นี่ซากฟอสซิลนกโบราณ

ไดโนเสาร์พันธ์ดุกินสัตว์
ซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ที่ถูกค้นพบ


มีเจ้าหน้าที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงที่ค้นพบซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์
มาดูส่วนที่จัดแสดงซากปลาวาฬขนาดใหญ่ด้วย

ทางเข้าโซนสีแดง

โซนสีแดงจะเป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับธรณีวิทยา การกำเนิดโลกและดวงดาว การเกิดแผ่นดินไหว การเกิดซินามิ  น่าเสียดายที่เรามีเวลาเพียงแค่ยี่สิบนาที ตอนนี้ใกล้เวลาปิดของพิพิธภัณฑ์เราจึงไม่ค่อยได้เก็บภาพมาฝากท่านผู้อ่าน ชะนีแคระใช้วีธีดูอย่างรีบๆทำเวลา



สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจทางพิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-17.50 น. เข้าชมฟรีไม่เสียเงิน  สนใจก็เดินทางมาลงที่สถานีรถไฟใต้ดินที่สถานี South Kensington



ห้างแฮร์รอด Harrods


 ตอนนี้ดูเวลาก็เกือบหกโมงเย็นแล้วสงสัยคงจะแวะไปเที่ยวสถานที่สุดท้ายของวันนี้  ว่าแล้วเราจะเดินลัดเลาะไปช็อปปิ้งที่ห้างดัง 18. ห้างแฮร์รอดส์ (Harrods) แฮร์รอดส์เป็นห้างสรรพสินค้าที่หรูหราและใหญ่เป็นอันดับสองของอังกฤษ  ตั้งอยู่บนถนนบรอมพ์ตัน ย่าน Knight Bridge ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์เนมมากมายกว่า 300 ร้าน  เดี่ยววันนี้ชะนีแคระจะไปเดินเล่นแวะซื้อของฝาก และที่เพื่อนฝากซื้อที่ห้างนี้กัน



แผนกขายของที่ระลึกของแบรนด์แฮร์รอดส์



พี่หมีแฮร์รอด
พี่หมีตัวใหญ่มาก
สำหรับผู้ที่สนใจอยากแวะมาช็อปปิ้งที่นี่  ห้างแฮร์รอดเปิดทุกวัน วันจันทร์-วันเสาร์เปิดตั้งแต่ 10.00-20.00 ส่วนวันอาทิตย์เปิด 10.00-18.00 น.  ถ้าเดินทางมาสถานีรถไฟใต้ดินให้ลงที่สถานี knightsbridge
เดินเล่นซื้อของก็ปาเกือบทุ่มกว่าแล้ว  วันนี้คงต้องจบโปรแกรมกลับมาหาอะไรทานง่ายๆแถวโรงแรมกัน เพราะเดอะแกงค์เหนื่อยและเพลียมากตอนแรกตั้งใจว่าจะไปเก็บภาพแสงสียามค่ำคืนของมหานครลอนดอนต่อแต่เอาเข้าจริงขอกลับโรงแรมนอนดีกว่าไว้ค่อยไปเที่ยวต่อวันพรุ่งนี้กัน  

วันที่ 4

เช้านี้เริ่มออกจากโรงแรมราวสิบโมงกว่า เราออกเดินทางไม่รีบร้อน เน้นนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะเรามีโปรแกรมที่วางไว้ต้องออกกำลังขากันอีกเยอะ  สำหรับโปรแกรมวันนี้ขอเริ่มต้นด้วยพาทุกคนไปเที่ยวที่ 19. หอศิลป์แห่งชาติ (Nation Gallery) ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี คศ. 1894 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมภาพวาดของศิลปินชื่อดังมากมายทั่วโลกโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามยุคสมัย เช่นภาพวาดในช่วงยุคกลาง ก็มีผลงานของ Leonardo da Vinci หรือภาพวาดสไตล์ Impressionist ของผลงานศิลปินชื่อดังก้องโลก อาทิเช่น Van Gogh, Monet และก็ Renoir นำมาจัดแสดงให้ชมมากกว่า 2300 ภาพวาด  เพื่อนของชะนีแคระนางเป็นแฟนพวกภาพวาดนางไม่พลาดรำร้องว่ายังไงก็ต้องแวะมาชมภาพงานเขียนในดวงใจกันเพื่อไม่ให้เสียเวลาชะนีแคระพาแฟนๆไปเที่ยวภายในกันค่ะ

ด้านหน้าหอศิลป์แห่งชาติ (Nation Gallery)


ห้องโถงทางเข้าชมภาพวาด

ภายในมีการแบ่งภาพวาดเป็นยุคต่างๆ

ภาพวาดในช่วงสมัยยุคกลาง

ภาพวาดของ Turner

ภาพวาดของศิลปินอังกฤษผู้โด่งดังนามว่า J. M.W Turner  ถูกวาดขึ้นในราวคศ. 1839 ภาพนี้เด่นในเรื่องการเล่นแสงท้องฟ้าในตอนพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกนะ ลองเดาใจศิลปินกันดูนะค่ะ


หนึ่งในภาพวาดอันโด่งของศิลปินชาวฝรั่งเศส โคลด โมแน (Claude Monet)

มาแล้วภาพวาดของ Van Gogh


ภาพดอกทานตะวันในตำนาน ผลงานของ Van gogh

สำหรับคนที่สนใจอยากไปชมนะค่ะ ทางพิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน วันเสาร์-วันพฤหัสเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. แต่สำหรับวันศุกร์เปิดตั้งแต่ 10.00-21.00 น.ค่ะ  ไม่เสียค่าเข้าแต่อย่างใด ถ้าเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินให้ลงที่สถานี Charing Cross อยู่ติดกับจัตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar)

จัตุรัสทราฟัลการ์

ไปต่อมาถึงหอศิลป์แห่งชาติแล้วต้องมาแวะที่นี่ค่ะ  20.  จัตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar) จัตุรัสนี้เป็นอนุสรน์สถานการต่อสู้ยุธนาวีทราฟัลการ์การสู้รบระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส ตรงกลางมีอนุเสารีย์ของลอร์ดเนลสัน  วีรบุรษของการสู้รบในครั้งนี้  นอกจากนี้จัตุรัสทราฟัลการ์ยังเป็นศูนย์กลางกรุงลอนดอนมักจะใช้เป็นที่ในการประท้วงและเฉลิมฉลองต่างๆ

ลานน้ำพุรอบๆจัตุรัสทราฟัลการ์
ช่วงที่ชะนีแคระมาเที่ยวที่ลอนดอนเค้ามีการจัดงานแข่งขันมาราธอนพอดี  วันนี้โชคดีชะนีแคระเก็บภาพบรรยากาศงานมาราธอนประจำปี 2015 มาฝากท่านผู้อ่านกัน ซึ่งเส้นทางการจัดการแข่งขันมาราธอนก็อยู่ใกล้กับเวสมินเตอร์ 



สู้สู้ๆ วิ่งสู้ฟัด


ผู้เข้าแข่งขันกับหอนาฬิกาบิกเบน
มีตำรวจและอาสาสมัครเพียบคอยกันนักท่องเที่ยว

หลังจากได้มีโอกาสได้ดูการแข่งขันวิ่งมาราธอนได้สักพักเราก็ต้องรีบไปเที่ยวกันต่อ สถานที่ต่อไปที่เราจะไปเที่ยวกันนั้นคือ 21. ตลาดแคมแดน (Camden Market) เป็นตลาดที่อยู่ทางตอนเหนือของลอนดอนก็อารมณ์คล้ายๆตลาดจัตุจักรบ้านเรานี่หละค่ะ มีขายเสื้อผ้า อาหาร ของกินนานาชาติ ของฝากที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ แนะนำให้มาเดินเที่ยววันเสาร์อาทิตย์นะค่ะ  ผู้คนจะคึกคักมากเป็นพิเศษ

Camden Market


วันอาทิตย์คนมาเที่ยวกันเยอะเลย
ใกล้ๆกับตลาดแคมเดนมีคลองส่งน้ำ Regent  นักท่องเที่ยวสามารถมาล่องเรือชมวิวสองฝั่งได้


โซนของตกแต่งบ้าน

ตลาดแคมเดนเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา  10.00-18.00 น. สำหรับคนที่สนใจจะแวะมาเที่ยวกันให้นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Camden Town หรือ Chalk Farm  

Tate  modern


เดินเล่นที่ตลาดแคมเดนเสร็จแล้วก็ดูเวลาและก็โปรแกรมที่วางไว้คิดว่าคงพอจะมีเวลาตามเก็บตกสถานที่เที่ยวที่เรายังไม่ได้ไปได้สักหนึ่งที่เลยลงประชามติกันว่าสถานที่หรือพิพิธภัณฑ์อันไหนน่าสนใจ  เพราะในลอนดอนนั้นมีสถานที่เที่ยวและพิพิธภัณฑ์ดีๆมากมายสรุปวันนี้เราเลือกที่จะไปเก็บตกที่นี่ค่ะ 22.หอศิลป์เทต ( Tate Modern) เป็นพิพิธภัณฑ์เป็นที่จัดแสดงศิลปะสากล และศิลปะร่วมสมัย ก่อตั้งขึ้นในคศ. 2000   ที่นี่มีผลงานของศิลปินยุคใหม่ และผู้มีความคิดสร้างสรรค์นำผลงานมาจัดแสดงมากมาย  ว่าแล้วชะนีแคระจะพาเที่ยวชมภายในกันคะ

ภาพเขียนแอบสแตก (Abstract Art)


ชะนีแคระงงคือศิลปินต้องการสื่ออะไร หรือเราไม่มีศิลปะในหัวใจกันแน่


เก๋มาก


ไอเดียหลุดโลก 
ชะนีแคระขอบอกมีหลายผลงานที่ชะนีแคระและเพื่อนแอบงงไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ศิลปินต้องการสื่อ  หรือเพราะเราไม่อาร์ตพอกันแน่ แต่ไม่เป็นไรค่ะถึอว่ามาเปิดหูเปิดตาได้เห็นอะไรแปลกใหม่  ถ้าใครสนใจต้องการมาดูมาเสพย์งานศิลป์ก็แวะมาเที่ยวกันได้นะค่ะ  หอศิลป์เทตเปิดทุกวัน  วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. ส่วนวันศุกร์และวันเสาร์เปิดตั้งแต่ 10.00 -22.00 น.  สามารถเข้าชมได้ฟรีค่ะ  เดินทางโดยสถานีรถไฟใต้ดินให้ลงที่สถานีที่ Southwark หรือ St. Paul's  ก่อนจบวันในวันนี้ชะนีแคระมีนัดทานข้าวเย็นกับเพื่อนชาวลอนดอนเกอร์  คืนนี้นางแนะนำให้ไปทานอาหารอินเดียค่ะ ขอบอกอาหารอินเดียที่ลอนดอนอร่อยและมีชื่อเสียง ชะนีแคระแนะนำให้ลองมาทานอาหารอินเดียที่ร้าน  Karma indian cuisine มีอยู่หลายสาขา ลองไปทานดูกันนะเลือกสาขาที่ใกล้กับที่พัก ชะนีแคระแปะลิงก์ไว้ให้แล้วนะhttp://www.k-a-r-m-a.co.uk/index.html

วันที่ 5

วันสุดท้ายของทริปลอนดอน  ชะนีแคระตั้งใจว่าเป็นวันที่เราจะเก็บสถานที่ที่เรายังไม่ได้ไป และครึ่งวันสำหรับการช็อปปิงซื้อของกันด้วย  เช้าวันนี้เราเริ่มต้นไปเที่ยวโซน Greenwich ทางตอนใต้ของฝั่งแม่น้ำเทมส์กันบ้าง เดินทางโดยการนั่งรถไฟสาย DLR ลงที่สถานี Cutty Sark เริ่มต้นเราแวะมาดู 23. เรือเดินสมุทรโบราณ Cutty Sark  ก็คือเจ้าเรือโบราณที่ใช้ขนส่งสินค้าที่มีชื่อเสียงของอังกฤษในยุคคริสต์ศตวรรษที่  19 ในช่วงที่อังกฤษมีอาณานิคมอยู่แทบทั่วโลก  เจ้า Cutty Sark เป็นเรือที่เอาไว้ขนใบชาจากเซื่ยงไฮ้มาลอนดอนโดยเฉพาะ  เมื่อปี  2007 ได้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ขณะที่กำลังซ่อมแซมทำให้เรือโบราณอายุร้อยกว่าปีลำนี้เสียหายเหลือเพียงแต่เถ้าถ่าน ซึ่งภายหลังรัฐบาลอังกฤษได้ทำการบูรณะซ่อมแซมสร้างเรือได้เสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ชมภายในปี  2012   เพื่อนๆสามารถซื้อตั๋วเข้าไปชมภายในตัวเรือได้  ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 11.00-23.00 น. ส่วนวันอาทิตย์เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 12.00-22.30 น. สนใจก็ลองไปแวะชมกันนะค่ะ


เรือโบราณ Cutty Sark

ลองถ่ายมุมไกลดูบ้าง

วิวฝั่งแม่น้ำเทมส์
24. พิพิธภัณฑ์ราชนาวีแห่งชาติ ( Nation Maritime Museum) จากประวัติศาสตร์ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าแห่งอาณานิคมที่เป็นนักเดินทางล่องเรือและทำสงครามยุทธนาวีไปทั่วโลก ดังนั้นพิพิธภัณฑ์นี้จึงจัดขึ้นมาเพื่อเป็นการรวบรวมความรู้เกี่ยวกับการเดินเรือของชาวอังกฤษ ประวัติบุคคล และข้อมูลของกองทัพราชนาวีอังกฤษที่เกรียงไกร รวมถึงการทำสงครามยุทธนาวีต่างๆ  ชะนีแคระเก็บภาพมาฝากกันให้จุใจเลย

พิพิธภัณฑ์ราชนาวีแห่งชาติ



เรือพระที่นั่งโบราณ
ลอร์ดเนลสัน

ลอร์ดเนลสัน  วีรบุรษของชาวอังกฤษ เค้าคือผู้บัญชาการกองทัพเรือของอังกฤษสามารถทำสงครามยุทธนาวีที่ทราฟัลการ์ชนะกองทัพเรือของฝรั่งเศสได้ ซึ่งระหว่างสงครามกำลังสู้รบอยุ่นั้น ลอร์ดเนลสันได้ถูกยิงและได้รับบาดเจ็บสาหัส เค้าเสียชีวิตหลังจากที่กองทัพอังกฤษได้ชัยชนะ


ภายในพิพิธภัณฑ์

สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าชมได้ฟรี ทางพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00- 17.00 น. สามารถเดินทางโดยรถไฟสาย DLR ที่สถานี Cutty Sark

Greenwich Park
ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ราชนาวีแห่งชาติมีสวนสาธารณะ  Greenwich ขนาดใหญ่ บรรยากาศร่มรื่นดีเดี่ยวเราเดินผ่านสวนสาธารณะเพื่อขึ้นเนินเขาไปดูหอดูดาวกัน

วิวมุมสูงเห็นตัวเมืองลอนดอนอยู่ด้านหลั

ในที่สุดก็ถึง 25. หอดูดาวหลวง ( Royal  Observatory) หอดูดาวหลวงถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชาลส์ที่ 2 คศ. 1675 สร้างขึ้นเนื่องจากในสมัยนั้นดาราศาสตร์นั้นมีบทบาทสำคัญต่อการเดินเรือของอังกฤษเป็นอย่างมาก  และที่นี่เดี่ยวเราจะมาดูเส้นแบ่งเวลาของโลกที่กรีนิชกัน


หอดูดาวหลวงกรีนิช 
ทำไมเวลาที่กรินิชจึงใช้เป็นเวลามาตรฐานโลก เพราะที่นี่ถูกกำหนดให้เส้นเมริเดียนแรก หรือเส้นเมอริเดียน 0 องศาลากผ่านเมืองกรินิช  เจ้าเส้นเมริเดียนนี้จะใช้เป็นเส้นแบ่งวันสากล  

คนต่อคิวถ่ายรูปที่เส้นลองติจูด 0 กันเพียบ
เส้นลองจิจูด จะเป็นเส้นที่ถูกกำหนดขึ้นมาให้แบ่งเวลาของโลกออกเป็นซึกตะวันออก กับตะวันตก โดยกำหนดให้เป็นเส้นลองจิจูด 0 องศาที่กรินิช  ส่วนประเทศไทยจะอยู่ที่เส้นลองติจูดที่  +7 องศา 30 ลิปดาตะวันออก  ซึ่งหมายความว่าเวลาที่ประเทศไทยจะเร็วกว่าเวลามาตรฐานโลกอยู่  7 ชั่วโมง  ตัวอย่างง่ายๆ หากตอนนี้เวลาที่กรินิชเป็นเวลาเที่ยงตรง เวลาที่ประเทศไทยก็จะเป็นเวลา  1 ทุ่มคะ

บรรยากาศด้านใน


กล้องส่องดูดาว


สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะเดินทางดูชมหอดูดาวหลวงกัน  ที่นี่เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 -17. 00 น. การเดินทางก็นั่งรถไฟสาย DLR แล้วมาลงที่สถานี Cutty Sark แล้วเดินตามป้ายมาสัก 10 นาทีก็ถึงค่ะ  


สวนสาธารณะไฮค์ปาร์ค  


ไปต่อกันที่อีกสัญลักษณ์ของลอนดอนกันนะคะ  วันนี้เราจะพาไปเที่ยวพื้นที่ปอดสีเขียวของชาวลอนดอนนั่นก็คือ 26. สวนสาธารณะไฮค์ปาร์ค  (Hyde  Park)  ไฮค์ปาร์คเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มีเนื้อที่มากกว่า  800 ไร่ เป็นที่ชาวลอนดอนมักจะมาออกกำลังกาย พบปะสังสรรค์กัน ภายในสวนมีต้นไม้ใหญ่มากมาย  โดยเฉพาะพวกกระรอกน้อยเหล่านี้มีให้เห็นเยอะแยะเลยค่ะ  


 กระรอกปีนต้นไม้



 กระรอกกำลังหาอาหาร

บรรยากาศลานหญ้ากว้างๆของสวนไฮค์ปาร์ค

สำหรับคนที่สนใจจะมาเที่ยวที่สวนสาธารณะไฮค์ปาร์ค สวนสาธารณะเปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลาตีห้า จนถึงเที่ยงคืน  สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีที่ Hyde Park Conner  


ตอนนี้ดูเวลาแล้วบ่ายสองครึ่งแล้วยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย เอาเป็นว่าชะนีแคระจะพาท่านผู้อ่านไปหาของกินอร่อยๆเอาใจผู้ที่ชื่นชอบแฮมเบอร์เกอร์กัน  วันนี้เราจะพาไปกินที่ร้านดังชื่อว่า Patty &Bun  ซึ่งมีหลายสาขา แต่ชะนีแคระเลือกที่จะกินในย่านแหล่งช็อปปิ้งที่ถนน Oxford Street  กินเสร็จเราจะได้มีเวลาช็อปปิ้งหาซื้อของฝากก่อนจบทริปเที่ยวลอนดอนกันคะ

 ร้านเบอร์เกอร์





ชะนีแคระลองสั่งชุดเบอร์เกอร์ไก่ มีเฟรนฟรายในเซ็ต กับลองสั่งน่องไก่บาร์บีคิวมาชิม


เบอร์เกอร์ไก่อร่อยเว่อร์

รสชาติอาหารใช้ได้ค่ะ ขนาดชะนีแคระไม่ใช่คนชอบเบอร์เกอร์แต่ขอบอกที่ร้านนี้อร่อยค่ะ และราคาไม่แพง แต่ขอแนะนำนะคะถ้าหากไปเวลาเที่ยงคนจะเยอะมาก ต้องจองคิวหรือไปรอกันนานทีเดียว นี่ขนาดชะนีแคระไปถึงร้านเกือบบ่ายสามยังต้องรอคิวเกือบ 20 นาที  คนเยอะจริงๆ


ถนนแห่งการช็อปปิ้ง

27. ถนนอ็อกฟอร์ด  (Oxford Street) ถนนแห่งการช็อปปิ้งใจกลางกรุงลอนดอน  ถนนเส้นนี้มีความยาวตลอด 1.6 กิโลเมตร ซึ่งตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยห้างร้าน แบรนด์เนมชั้นนำคอยเอาใจบริการนักท่องเที่ยวที่ชอบจับจ่ายซื้อของกันนับว่าเป็นสีสันที่ห้ามพลาดของขาช็อปทั้งหลาย


 ถนนอ็อกฟอร์ด




ผู้คนขวักไคว่เต็มสองข้างทาง

หลังจากเดินเล่นซื้อข้าวของได้นานเกือบสองชั่วโมง ชะนีแคระดูเวลาแล้วเกือบหกโมงเย็นแล้วเราต้องรีบบึ่งกลับโรงแรมเพื่อจะไปเอาสัมภาระที่ทิ้งไว้ เพราะเราต้องกลับไปขึ้นรถไฟรอบสองทุ่มเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ปารีสกัน  




 สำหรับทริปลอนดอนนี้ชะนีแคระประทับใจอะไรหลายอย่างๆ ไม่ว่าจะแสงสีเสียง ความงามทันสมัยของบ้านเมือง และประวัติศาสตร์ต่างๆของแดนผู้ดีอังกฤษสมกับเป็นเมืองมหานครใหญ่ของโลกจริงๆ  ชะนีแคระขอบอกว่าที่ลอนดอนนั้นมีสถานที่เที่ยวดีๆมากมาย โดยเฉพาะพวกพิพิธภัณฑ์ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ดีๆเยอะมาก แถมเข้าฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย  ชะนีแคระอยากให้ที่รัฐบาลไทยเราสร้างพิพิธภัณฑ์และส่งเสริมให้คนไทยเข้าพิพิธภัณฑ์ดีๆแบบนี้บ้างแบบปลูกฝังกันแต่เด็กเลย   สำหรับ 5 วันในการเที่ยวที่ลอนดอนชะนีแคระยังไปเที่ยวไม่ทั่วหวังว่าถ้าหากมีโอกาสก็อยากจะกลับมาเที่ยวที่ลอนดอนอีกครั้ง  สำหรับวันนี้ชะนีแคระคงต้องลาท่านผู้อ่านไปก่อน ส่วนตอนหน้าชะนีแคระมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองบาธ (Bath)แบบ one day trip ไว้จะมาเล่าต่อในตอนต่อไป  ก่อนจากกันขอขอบคุณทุกการติดตามวันนี้ลาไปก่อนค่ะพบกันใหม่ในตอนหน้าที่ชื่อว่า เที่ยวเมืองบาธ (Bath) เมืองบ่อน้ำพุร้อนแห่งโรมัน